ขั้นตอนการผลิตกาแฟ ก่อนที่เราจะได้ลิ้มรสอันกลมกล่อม

โดย Admin Pitbull Coffee 18/6/2563 เวลา 22:39 น.



สำหรับผู้ที่ชื่นชอบและหลงใหลในรสชาติและความหอมละมุนในรสชาติของกาแฟ การได้ดื่มซักแก้วในแต่ล่ะวัน คงเป็นอารมณ์ที่สุนทรีมากๆเปรียบเสมือนว่าได้เติมพลังงานชีวิตกันเลยก็ว่าได้ แต่ว่าจะได้ออกมาเป็นกาแฟซักแก้วให้ลิ้มลองรสชาติกัน รู้หรือไม่ว่าต้องผ่านกระบวนการผลิตกาแฟมาในขั้นตอนใดๆบ้าง  เพราะกาแฟ คอหนึ่งความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ และกลิ่นอันเอกลักษณ์โดยเฉพาะ จนเป็นเสน่ห์ที่ทำเอาใครที่ได้ชิมก็มักจะติดใจกันแทบทุกคน ดังนั้น ของที่มีคุณภาพเช่นนี้จึงจำเป็นต้องผ่านขั้นตอนที่มส่ใจอยู่หลายขั้นตอน ทั้งการเตรียมเมล็ด การคั่ว การบด การชง ขั้นตอนเหล่านี้คือสิ่งที่ให้ความสำคัญ  การผลิตในแต่ละขั้นตอน มีรายละเอียดและวิธีการดังนี้


1. เตรียมเมล็ด

เป็นขั้นตอนก่อนจะทำการนำเมล็ดกาแฟออกจากผลหรือเปลือกของมัน ที่มีลักษณะสีแดงกลมคล้ายกับผลของเชอรี่ เพื่อให้ได้เมล็ดกาแฟดิบ หรือที่เรียกกันว่า กาแฟสาร ซึ่งในขั้นตอนนี้จะทำหลังจากที่ได้ทำการเก็บเกี่ยวผลมาแล้ว โดยหลักๆ จะสามารถทำได้อยู่ 2 วิธี คือ 

วิธีแห้ง เป็นวิธีสำหรับพันธุ์โรบัสต้า โดยการนำเอาผลของกาแฟสดๆ ไปตาก หรือผึ่งแดด เพื่อให้ความชื้นนั้นออกไป ป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อรากับเมล็ดกาแฟจนอาจส่งผลเสียไปถึงกลิ่น รสชาติ และที่สำคัญสำคัญคือสุขภาพของผู้บริโภค ซึ่งพื้นที่ตากนั้นต้องพื้นเรียบ และแห้ง เช่น คอนกรีต เป็นต้น ส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 2–3 สัปดาห์ 

วิธีเปียก เป็นวิธีสำหรับพันธุ์อราบิก้า โดยนำเอาผลสดที่เก็บเกี่ยวแล้วมาแยกผลสุกพร้อมล้างทำความสะอาดผ่านเครื่องเฉพาะ เมื่อเสร็จแล้วก็จะนำเข้าเครื่องสำหรับปอกเปลือก แล้วนำมาล้างเพื่อเอาเมือกออกอีกครั้ง และนำไปสู่ถังหมักทิ้งไว้ประมาณ 12–36 ชม. และท้ายที่สุดก็ต้องนำไปตากหรือผึ่งแดดเพื่อไล่ความชื้นออกเช่นกัน ที่ต้องทำละเอียดเช่นนี้เพราะจะเป็นการรักษารสชาติของกาแฟไว้ให้คงที่ที่สุด 



2. การคั่ว

เป็นการนำ กาแฟสาร เข้าสู่กระบวนการคั่ว ขั้นตอนกระบวนการนี้ต้องอาศัยความชำนาญการและมีประสบการณ์อย่างมาก เพราะขั้นตอนนี้เองที่จะเปลี่ยนให้เมล็ดกาแฟจากเขียวเป็นสีอื่น และมีส่วนทำให้เกิดกลิ่นที่หอม และส่งผลต่อรสชาติที่ดี โดยการคั่วแบ่งตามระดับกาแฟที่ต้องการ ดังนี้

คั่วอ่อน (Light Roast) จะทำให้รสชาติของกาแฟนั้นออกรสเปรี้ยวเหมือนการหมักของไวน์ สีที่ได้คือน้ำตาลทองอ่อน นิยมชงดื่มแบบสบายๆ คล้ายดื่มชา

คั่วปานกลาง (Medium Roast) จะได้สีน้ำตาลทองอ่อนเช่นกัน แต่รสชาตินั้นจะมีความเปรี้ยวลดลง เหมาะกับการชงกาแฟดำ หรืออเมริกาโน่

คั่วเข้ม (Medium Dark Roast) สีที่ได้จะเป็นน้ำตาลเข้ม รสชาติจะขมและมีความอมเปรี้ยวนิดหน่อย เนื่องจากมีความมันจากสารคาเฟออยล์ที่แตกออกมา ชงได้ทั้งกาแฟดำและกาแฟเย็นที่ผสมกับนมและอื่นๆ ตามแต่ละเมนู

คั่วเข้มมาก (Dark Roast) สีจะเข้มมากจนถึงดำ และรสชาติจะมีความขมเข้ม แทบไม่เหลือความเปรี้ยว นิยมใช้ชงกาแฟเย็นที่ผสมกับนมและอื่นๆ ตามแต่ละเมนู



3. การบด

เป็นขั้นตอนการผลิตกาแฟให้ละเอียด โดยแบ่งประเภทการบดตามความเหมาะสม ดังนี้

บดหยาบ
 เหมาะกับเมล็ดที่คั่วอ่อนและปานกลาง เพราะจะทำให้ได้รสชาติที่อ่อนไม่หนักไป

บดปานกลาง ระดับนี้จำเป็นต้องใช้กรวยกรองเป็นตัวช่วย เหมาะกับคั่วแบบอ่อนไปถึงกลาง ระยะเวลาผ่านน้ำจะนานไปด้วย

บดละเอียด เหมาะกับการคั่วแบบเข้ม ซึ่งจะทำให้รสชาติออกมาเข้มข้น



4. การชง

ในขั้นตอนนี้ไม่มีตายตัว เนื่องจากอยู่ที่ความชอบและเทคนิคของแต่ละคน ไม่ว่าจะ Drip Coffee, Cold Brew, Espresso Machine รวมไปถึงการนั่งดื่มในร้านแบบชิวๆ

อย่างไรก็ตาม กระบวนการผลิตกาแฟทั้งหมดก่อนจะได้กาแฟสักแก้วนั้น ดูเหมือนว่าจะขาดการเอาใจใส่ไม่ได้เลย ทั้งนี้ก็เพื่อให้กาแฟ “เมล็ดแห่งรสชาติมหัศจรรย์” ยังคงความมีเสน่ห์และน่าลิ้มลองตลอดไป 

suzuki-coffee.com