การคั่วกาแฟคืออะไร มีผลต่อรสชาติกาแฟอย่างไร

โดย Admin Pitbull Coffee 11/5/2563 เวลา 20:38 น.



เมื่อเราได้เมล็ดกาแฟดิบ (green bean) เรายังไม่สามารถนำไปรับประทานได้ ต้องนำเมล็ดกาแฟดิบนั้นไปทำการคั่วก่อน โดยที่การคั่วกาแฟ แบ่งหลักๆ ได้ 3 ระดับ ได้แก่ คั่วอ่อน คั่วกลาง และคั่วเข้ม ซึ่งระดับการคั่วกาแฟมีผลต่อรสชาติความเปรี้ยว ความหวาน ความขม รวมไปถึงกลิ่นกาแฟ ซึ่งเป็นรายละเอียดขั้นสูงการคั่วกาแฟที่ทำให้ได้ โปรไฟล์กาแฟ(คุณลักษณะของรสชาติ และกลิ่นของกาแฟ)ตามที่เราต้องการ 


ขั้นตอนระหว่างการคั่วกาแฟ
เราจะอธิบายภาพขั้นตอนต่างๆ ระหว่างที่คั่วกาแฟได้ดังนี้ 

  1. เมื่อนำกาแฟดิบไปคั่ว สิ่งแรกที่จะเกิดขัึ้นให้เห็นเลยคือมีไอน้ำระเหยออกมา ซึ่งในสารอินทรีย์(ส่วนประกอบของพืชและสัตว์ทุกชนิด)บนโลกมีส่วนประกอบสำคัญคือน้ำ ดังน้ำเมื่อโดนความร้อน น้ำในเมล็ดกาแฟดิบจะกลายเป็นไอ และเมล็ดกาแฟดิบจะแห้ง
  2. เมื่อคั่วได้สักระยะเมล็ดกาแฟดิบจะกลายเป็นสีเหลือง (เกิดการเผาของเมล็ดกาแฟดิบที่เป็นสีเขียว) และก่อนการเกิดเสียงแตกของเมล็ดกาแฟครั้งแรก จะได้เมล็ดกาแฟ ระดับคั่วอ่อน สังเกตได้จากการคั่วระดับอ่อนจะไม่มีความมันบนผิวเมล็ดกาแฟเนื่องจากแก๊สที่สะสมภายในเมล็ดยังไม่ออกมา
  3. เสียงแตกของเมล็ดกาแฟครั้งแรก (First crack) เมื่อคั่วกาแฟไปสักระยะ จะได้ยินเสียงแตกของเมล็ดกาแฟ คล้ายเสียงข้าวโพดคั่วหรือป๊อปคอน เนื่องจากในเมล็ดกาแฟดิบมีส่วนประกอบของคาร์บอนเป็นหลักเมื่อเกิดการคั่วจะทำให้เกิด แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งทำให้เกิดแรงดันภายในเมล็ดกาแฟและแตกออกมาจึงทำให้ได้ยินเสียงแตกของเมล็ดกาแฟ 
  4. เมื่อเกิด First crack จะได้เมล็ดกาแฟที่ ระดับคั่วกลาง ซึ่งถ้าคั่วต่อไปความเปรี้ยวของเมล็ดกาแฟก็จะค่อยๆหายไปและแทนที่ด้วยความขมของกาแฟ ช่วงนี้เป็นช่วงที่สามารถปรับสัดส่วนระหว่างความเปรี้ยวและความขมของกาแฟได้
  5. เมื่อคั่วจนเกิด เสียงแตกของเมล็ดกาแฟครั้งที่2 (second crack) เราจะได้เมล็ดกาแฟ ระดับคั่วเข้ม ขึ้นไป ระดับของการคั่วกาแฟ



1.ระดับคั่วอ่อน (Light roast, Half city , Cinnamon roast)

- ระดับการคั่วนี้เมล็ดกาแฟจะมีสีน้ำตาลอ่อน คล้ายสีของ cinnamon หรืออบเชยนั่นเอง

- ระดับการคั่วนี้ จะคงคุณสมบัติดั้งเดิมของกาแฟ และมีความเปรี้ยว สดชื่นและรสฝาดสูง

- เหมาะกับการทำกาแฟร้อน 


2. ระดับคั่วกลาง (Medium roast , Full city , American)

- ระดับการคั่วนี้เมล็ดกาแฟจะมีสีน้ำตาลเข้มปานกลาง (เข้มกว่าคั่วอ่อน แต่ไม่ถึงขั้นเป็นสีดำ) 

- ระดับการคั่วกลาง จะให้รสชาติ ขมปนหวาน และมีความเปรี้ยวเล็กน้อย

- เหมาะกับการทำกาแฟร้อนและเย็น (กรณีทำกาแฟร้อนจะมีความเปรี้ยวน้อยกว่าระดับคั่วอ่อน และเมื่อทำกาแฟเย็นรสชาติจะเข้มข้นไม่เท่าระดับคั่วเข้ม)

- ให้รสชาตินุ่มกลมกล่อม


3. ระดับคั่วเข้ม (Dark roast, Continental roast , Vienna roast)

- ระดับการคั่วนี้เมล็ดกาแฟจะมีสีน้ำตาลเข้ม ขมปนหวานเล็กน้อย(ต้องสังเกตจริงๆ) ไม่มีความเปรี้ยวหลงเหลือ และมีกลิ่นฉุนของกาแฟปนกับกลิ่นหอมของกาแฟ

- เหมาะกับการทำกาแฟเย็น ที่ต้องการรสชาติที่เข้มข้น หรือ ต้องการเนื้อสัมผัสของกาแฟมาก (body ของกาแฟ)

- เหมาะกับเมนู espresso เย็นมากที่สุด เพราะเมนูอื่นอาจจะทำให้รสชาติการแฟขมเกินไป


สรุปสั้นๆ เกี่ยวกับการคั่วกาแฟ

1. ระดับการคั่วอ่อน จะให้รสชาติเปรี้ยว และคุณสมบัติดังเดิมของกาแฟทั้งหมดเหมาะกับการทำกาแฟร้อน (espresso , americano )

2. ระดับการคั่วกลาง จะให้รสชาติหวาน เปรี้ยวและขมเล็กน้อย เหมาะแก่การทำกาแฟที่ต้องการความนุ่ม เช่น ลาเต้ คาปูชิโน ทั้งร้อนและเย็น

3. ระดับการคั่วเข้ม จะได้รสชาติ หวานเล็กน้อยและขม เหมาแก่การทำกาแฟเย็น และเหมาะกับความต้องการกาแฟที่มี body เยอะๆ

สาระน่ารู้เกี่ยวข้อง